โดรน เทคโนโลยีการบินรูปแบบใหม่ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์มากขึ้น ด้วยขนาดที่กระทัดรัด และความสามารถให้การบินที่รวดเร็ว ทำให้สามารถดัดแปลงการใช้งานได้หลายรูปแบบทั้งใช้บินถ่ายภาพมุมสูง ตระเวนหาผู้ประสบภัย หรือแม้แต่ขนส่งสินค้า

โดรน

โปรเจคนี้ทาง NEC ก็ได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น

ซึ่งวางแผนที่จะนำโดรนขนาดใหญ่มาขนส่งสินค้าภายในปี 2023 ส่วนการขนส่วคนน่าจะเริ่มให้บริการในปี 2030.

ตัวเครื่องต้นแบบที่นำมาสาธิตการบินนั้นจะเป็นโดรน 4 ใบพัด แต่ละใบพัดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 1.2 – 1.5 เมตร ด้านล่างมีทั้งหมด 3 ล้อ ส่วนสถานที่บินทดสอบนั้นจะเป็นโครงเหล็กขนาดใหญ่ ล้อมด้วยตาข่ายเพื่อความปลอดภัยของสื่อที่เข้ามาสังเกตการณ์ การทดสอบบินนั้นจะบินค้างกลางอากาศเป็นเวลา 50 วินาทีที่ความสูง 3 เมตร

การทดสอบแท็กซี่บินได้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร
เพราะตอนนี้ทั่วโลกมีหลายบริษัทที่กำลังทดสอบยานพาหนะแบบเดียวกันอยู่
ซึ่งหลายลำก็ประสบความสำเร็จในการทดสอบขนส่งคนในระยะสั้นๆเรียบร้อยแล้ว ตัวโดรนของ NEC นั้นถือว่าอยู่ในช่วงตั้งไข่ การขึ้นลงโดยไม่มีผู้โดยสารนั้นยังถือว่ายังไม่นุ่มนวลเท่าที่ควร
แถมเสียงใบพัดก็ยังดังมากแถมตำแหน่งของใบพัดยังอยู่ใกล้ห้องโดยสารอีก
ถ้าเป็นผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายในคงไม่สบายหูสักเท่าไหร่
สิ่งที่น่าสนใจก็คือใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากไฮโดรเจน
ในขณะที่แบตเตอรี่ลิเธียมถือเป็นหัวใจสำคัญของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าทั่วโลก แต่ผู้ผลิตจากญี่ปุ่นอย่าง Toyota ยังคงให้ความสำคัญกับพลังงานเชื้อเพลิง (fuel cell) ที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของวงการขนส่ง

ปกติแล้วโดรน VTOL นั้นจะพึ่งพากำลังหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบา
แต่การใช้แบตลิเธียมนั้นจะทำให้ตัวเครื่องแบกน้ำหนักมากขึ้น แถมความสามารถในการเก็บพลังงาน (energy density) ยังด้วยกว่าเมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิง

ในทางกลับกันเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลวมีความสามารถในการเก็บพลังงานสูงกว่า
ทำให้บินได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น

คอร์สเรียนที่แนะนำ HTML CSS JAVASCRIPT

คอร์สเรียนที่แนะนำ PHP JAVASCRIPT MYSQL

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

กดติดตามข่าวสารต่างๆได้ที่เพจ Facebook